24 ธันวาคม 2555



"มากมายก่ายกอง ลุมพินี ตัวเราของเรา รอผล เมฆสีรุ้ง ไม่เป็นดังฝัน" และเพลงอื่นๆที่เป็นผลผลิตจากวงจากประเทศไทยในนาม "ภูมิจิต" บทเพลงที่สื่อถึงแง่สังคมความเป็นอยู่ซะส่วนใหญ่ ความเป็นจริงที่เราๆอาจจะมองข้่ามหรือมองไม่เห็น ถูกเรียบเรียงมาเป็นเนื้อเพลงในแนวเพลงที่คล้ายคลึงและหลากหลายในคราวเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Psychedelic (ไซคีเดลิก) Shoegaze ทั้งอินดี้ป๊อป   ร๊อก ลุงทุ่งแกมเพื่อชีวิต 

วงภูมิจิต (Poomjit) เดิมที
เป็นนักศึกษาม.เกษตร คณะวิศวะปีสอง สมาชิกก็ประกอบไปด้วย พุฒิยศ (นักร้องนำ) เกษม (มือกีตาร์) ร่วมด้วย ชานนท์ (มือเบส) และ ฉันทวัช (มือกลอง) จนมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนสมาชิกคือมือกลองและเบสเพราะทั้งคู่ต่างไปทำงานของตัวเอง สมาชิกปัจจุบันเลยมี พุฒิยศ ผลชีวิน (พุฒ) - ร้องนำและกีต้าร์ , เกษม จรรยาวรวงศ์ (กานต์) - กีต้าร์ , ธิตินันท์ จันทร์แต่งผล (บอม) - เบส ,อาสนัย อาตม์สกุล (แมค) - กลอง เพลงแรกๆที่วงภูมิจิตได้ทำก็คือเพลง รอผลและมากมายก่ายกอง ที่ถูกส่งเข้าไปในช่วง "Bedroom studio" ของ Fat Radioและได้เล่นสดครั้งแรกเมื่อวันที่ 25/5/2002 เวลา12.05น นับว่าเป็นจุดกำเนิดวงนี้เลยก็ว่าได้ แต่เท่าที่ผมอ่านประวัติมาคร่าวๆ ทำให้รู้ว่าวงนี้ผ่านอะไรที่ดูวุ่นวายพอสมควรเลยตั้งแต่เรื่องหาสังกัดค่ายในปี 49 ได้ทำงานกับค่าย "ตาต้า สตูดิโอ" ของพี่ต้า พาราด็อกซ์นั้นเองหลังจากนั้นไม่นานทางวงได้ปล่อยเพลงออกมาเป็นระยะๆจนปี 2551 ได้ถือกำเนิดอัลบั้มแรกชื่อว่า "Found And Lost" ที่วางบนแผงเดือนกุมภา อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ภูมิจิตได้ตะโกนแสดงการมีตัวตนเลยก็ได้มั้งจากคำวิจารณ์แง่ต่างๆ และเริ่มมีแฟนๆติดตามกันบ้างแล้วเนื้อหาเพลงในอัลบั้มนี้เป็นการพูดถึงเรื่องในแต่ละวันซะส่วนใหญ่ เรื่องใกล้ๆตัวนี่แหละอัลบั้มนี้ผมชอบหลายเพลงนะ แต่ละเพลงมันติดหูดีแบบบางทีเดินๆไปอยู่ดีๆก็ร้องเพลงนู้นเพลงนี้ขึ้นมา จนต้องถูกเพื่อนทักว่า "มึงบ่นอะไรของมึงคนเดียวเนี่ย" 
ไลน์กีต้าร์ลอยๆสวยดีเนื้อหาแปลกๆดีนะสำหรับคนที่ไม่ค่อยฟังแนวนี้เท่าไหร่แต่ต้องตั้งใจฟังกันนิดเพราะเสียงแกจะคลอไปกับดนตรีซักหน่อยและเบสกับกลองเข้าขากันดีไม่รกๆ ถัดมาอีกประมาณปี 52-53 ประมาณนี้ก็ได้มาทำงานในสังกัด "Lemon Factory" เป็นฤกษ์เกิดของอัลบั้มใหม่ในค่ายมะนาวเหลือง อัลบั้มชุดที่สองนี้ถูกวางในงานFAT ครั้งที่ 10 ชื่ออัลบั้มว่า "Bangkok Fever" เริ่มเปิดอัลบั้มนี้ก็เจอเสียงที่ล่องลอยกับกลิ่นอัลบั้มก่อนกับเพลง Hope and future ด้วยเนื้อร้องว่า "ฉันมองไปยังอนาคตที่มี" เหมือนเป็นการเปิดฉากของโรงละครในเรื่องนี้ที่น่าจะมีเนื้อหาที่เป็นเรื่องราวที่เกริ่นให้ผู้ชมต้องติดตาม ...และก็เป็นเช่นนั้น เรื่องราวในแต่ละเพลงได้ถูกถักให้มันเชื่อมต่อกัน ตั้งแต่สิ่งใกล้ตัวการทำงาน ทัศนคติต่างๆในแต่ละมุมมองหรือแม้แต่สัจธรรมง่ายๆของการใช้ชีวิต  ยิ่งกว่านั้นคือความเป็นจริงที่ถูกกลั่นออกมาจากไมค์แต่ละตัวมาลงแผ่นกลมๆบางๆให้คนที่เปิดใจได้ฟังได้คิดกัน เนื้อหาดีไม่แพ้กับอัลบั้มก่อนหน้าเลย และปีนี้(2555) ก็ได้ออกอัลบั้มพิเศษชื่อว่า "Home Floor" ขึ้นมา ...จะเห็นได้ว่าดนตรีสามารถถ่ายทอดสิ่งต่างๆที่พูดยากๆให้เป็นเรื่องง่ายๆที่ใช้เสียงดนตรีมาประกอบให้ดูน่าฟังขึ้น ฟังดนตรีมันต้องใจเย็นๆฟังแล้วคิดเพราะเจตนารมณ์ของคนทำคงไม่ได้ทำมาเพื่อให้เราฟังเพลินๆหรอก มันยังมีหีบและความลับในบทเพลงที่รอให้คนเปิดดูและค้นหามันอยู่ วงนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นวงที่น่าตื่นเต้นมากตื่นเต้นกับผลงานที่จะออกมาและน่าติดตามเป็นที่สุดอีกวงหนึ่งเพราะ
เราภูิมิใจใน ...."ภูมิจิต"





ผลงานของภูมิจิต











ติดตามพวกเขาได้ตามนี้
*ขอบคุณวงภูมิจิตด้วยที่อนุญาตให้นำผลงานมาเขียนได้ครับ ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยไว้ด้วย
*ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Wikipedia.org ด้วยครับ





0 ความคิดเห็น:

แบ่งปัน